Thursday, May 16, 2019

เดวิด เบ็คแฮม เผย5คำป๋าด่าแบบเจ็บๆ

เดวิด เบ็คแฮม อดีตแข้งทีมชาติอังกฤษ เผยถึงความเฮียบของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หลังเคยโดนสั่งไปโกนผมทิ้งเนื่องจากทะลึ่งตัดทรงโมฮอว์ก พร้อมชี้นักเตะยุคใหม่ได้อิสระเยอะมาก เนื่องจากสมัยตน "ป๋า" ไม่ยอมให้สวมสตั๊ดสีสันหรือสีขาวลงสนามเด็ดขาด ส่วนพวกรอยสักไม่ต้องพูดถึง ใครทำโดนด่ากระจุย


               เดวิด เบ็คแฮม ตำนานจอมปั่นฟรีคิก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจตนเคยโดน เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ผีแดง" ไล่ไปตัดผมตอนที่อยู่ในห้องแต่งตัวที่สนามเวมบลีย์ ก่อนลงสนามเกมแชร์ลิตี้ ชิลด์ เมื่อปี 2000 หลังจากที่ดันทะลึ่งทำทรงโมฮอว์ก

              "หนุ่มเบ็คส์" ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะเซเลบริตี้แห่งวงการลูกหนัง มักจะเป็นผู้นำแฟชั่นสำหรับนักเตะในยุคของเขา และหนึ่งในเรื่องแฟชั่นที่ เบ็คแฮม มักจะทำก็คือการเปลี่ยนทรงผม โดยมีครั้งหนึ่งที่เขาเลือกตัดผมทรงโมฮอว์ก และก็โดน "เซอร์เฟอร์กี้" จัดหนักจัดเต็มจนแบบไม่ไว้หน้า

              เบ็คแฮม เผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นก่อนเกมการกุศลพบ เชลซี เผยเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปี แมนฯ ยูฯ คว้าเทรบเบิ้ลแชมป์ ว่า "ผมเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว และเขายังไม่เห็นทรงผมเพราะผมกลัวมากๆ ที่จะเผยให้เขาได้เห็นทรงนั้น ผมลงฝึกซ้อมมาแล้วก่อนหน้านี้ด้วยการสวมหมวก, ซ้อมเสร็จก็ยังสวมหมวก, เดินในโรงแรมก็สวมหมวก กินอาหารเย็นก็สวมหมวก กินอาหารเช้าก็สวมหมวก นั่งรถบัสไปสนามก็สวมหมวก"

              "จากนั้นในขณะที่ผมพร้อมสำหรับลงสนาม ผมก็ต้องถอดหมวกออก เขาก็บอกว่า -ไปโกนผมเดี๋ยวนี้- ผมหัวเราะคิกคิก และเขาก็พูดเสียงดังว่า -ไม่ตลก ฉันเอาจริง ไปโกนผมเดี๋ยวนี้- จากนั้นผมก็หากรรไกรตัดผม และก็จัดการโกนมันทิ้งในสนามเวมบลีย์ ผู้จัดการเป็นคนที่เคร่งครัดเรื่องกฎระเบียบเสมอ"

               วงการฟุตบอลในยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากนับตั้งแต่ เบ็คแฮม ได้สร้างรากฐานแฟชั่นให้กับนักเตะ โดย อดีตแข้งวัย 44 ปี เผยว่าเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในยุคที่ ตำนานนายใหญ่เลือดวิสกี้ กุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด "มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่จะทำแบบนี้"

              "มันเป็นเรื่องปกติที่จะตัดผมทรงโมฮอว์ก หรือสักที่คอหรือสวมรองเท้าสตั๊ดมีสีสัน ตอนที่เราเติบโตขึ้นมานั้น ผู้จัดการไม่เคยปล่อยให้เราก้าวลงสนามด้วยการสวมรองเท้าสตั๊ดที่มีสีสัน หรือสตั๊ดสีขาว นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ แน่นอนว่ามีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป"

               เบ็คแฮม ปัจจุบันใช้ชีวิตคู่อยู่กับ วิคตอเรีย อดีตป็อบสตาร์วง "สไปซ์ เกิร์ลส์" และมีลูกด้วยกันสี่คน ยอมรับว่าเป็นคนที่ติดตามเรื่องแฟชั่นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว "ตอนที่ผมอายุ 7-8 ขวบผมอยากไปร้านตัดผม และตัดผมที่ไม่เหมือนใคร หรือผมอยากจะใส่อะไรก็ได้ที่แตกต่างจากสิ่งที่พวกเพื่อนๆ ใส่กัน"
เดวิด เบ็คแฮม อดีตแข้งทีมชาติอังกฤษ เผยถึงความเฮียบของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หลังเคยโดนสั่งไปโกนผมทิ้งเนื่องจากทะลึ่งตัดทรงโมฮอว์ก พร้อมชี้นักเตะยุคใหม่ได้อิสระเยอะมาก เนื่องจากสมัยตน "ป๋า" ไม่ยอมให้สวมสตั๊ดสีสันหรือสีขาวลงสนามเด็ดขาด ส่วนพวกรอยสักไม่ต้องพูดถึง ใครทำโดนด่ากระจุย
               เดวิด เบ็คแฮม ตำนานจอมปั่นฟรีคิก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจตนเคยโดน เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ผีแดง" ไล่ไปตัดผมตอนที่อยู่ในห้องแต่งตัวที่สนามเวมบลีย์ ก่อนลงสนามเกมแชร์ลิตี้ ชิลด์ เมื่อปี 2000 หลังจากที่ดันทะลึ่งทำทรงโมฮอว์ก

              "หนุ่มเบ็คส์" ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะเซเลบริตี้แห่งวงการลูกหนัง มักจะเป็นผู้นำแฟชั่นสำหรับนักเตะในยุคของเขา และหนึ่งในเรื่องแฟชั่นที่ เบ็คแฮม มักจะทำก็คือการเปลี่ยนทรงผม โดยมีครั้งหนึ่งที่เขาเลือกตัดผมทรงโมฮอว์ก และก็โดน "เซอร์เฟอร์กี้" จัดหนักจัดเต็มจนแบบไม่ไว้หน้า

              เบ็คแฮม เผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นก่อนเกมการกุศลพบ เชลซี เผยเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปี แมนฯ ยูฯ คว้าเทรบเบิ้ลแชมป์ ว่า "ผมเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว และเขายังไม่เห็นทรงผมเพราะผมกลัวมากๆ ที่จะเผยให้เขาได้เห็นทรงนั้น ผมลงฝึกซ้อมมาแล้วก่อนหน้านี้ด้วยการสวมหมวก, ซ้อมเสร็จก็ยังสวมหมวก, เดินในโรงแรมก็สวมหมวก กินอาหารเย็นก็สวมหมวก กินอาหารเช้าก็สวมหมวก นั่งรถบัสไปสนามก็สวมหมวก" อ่านข่าวบอลเพิ่มเติม

              "จากนั้นในขณะที่ผมพร้อมสำหรับลงสนาม ผมก็ต้องถอดหมวกออก เขาก็บอกว่า -ไปโกนผมเดี๋ยวนี้- ผมหัวเราะคิกคิก และเขาก็พูดเสียงดังว่า -ไม่ตลก ฉันเอาจริง ไปโกนผมเดี๋ยวนี้- จากนั้นผมก็หากรรไกรตัดผม และก็จัดการโกนมันทิ้งในสนามเวมบลีย์ ผู้จัดการเป็นคนที่เคร่งครัดเรื่องกฎระเบียบเสมอ"

               วงการฟุตบอลในยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากนับตั้งแต่ เบ็คแฮม ได้สร้างรากฐานแฟชั่นให้กับนักเตะ โดย อดีตแข้งวัย 44 ปี เผยว่าเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในยุคที่ ตำนานนายใหญ่เลือดวิสกี้ กุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด "มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่จะทำแบบนี้"

              "มันเป็นเรื่องปกติที่จะตัดผมทรงโมฮอว์ก หรือสักที่คอหรือสวมรองเท้าสตั๊ดมีสีสัน ตอนที่เราเติบโตขึ้นมานั้น ผู้จัดการไม่เคยปล่อยให้เราก้าวลงสนามด้วยการสวมรองเท้าสตั๊ดที่มีสีสัน หรือสตั๊ดสีขาว นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ แน่นอนว่ามีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป"

               เบ็คแฮม ปัจจุบันใช้ชีวิตคู่อยู่กับ วิคตอเรีย อดีตป็อบสตาร์วง "สไปซ์ เกิร์ลส์" และมีลูกด้วยกันสี่คน ยอมรับว่าเป็นคนที่ติดตามเรื่องแฟชั่นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว "ตอนที่ผมอายุ 7-8 ขวบผมอยากไปร้านตัดผม และตัดผมที่ไม่เหมือนใคร หรือผมอยากจะใส่อะไรก็ได้ที่แตกต่างจากสิ่งที่พวกเพื่อนๆ ใส่กัน"

แทงบอลออนไลน์เว็บไหนดีที่สุด คลิ๊ก www.ufaadd.com/แทงบอล-เทคนิค

Tuesday, May 7, 2019

มิดฟิลด์จอมพลิ้ว ซิลวาสะกิดกอมปานีต่อสัญญาแมนซิตี้ต่อ


     มิดฟิลด์จอมพลิ้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกโรงสะกิด แว็งซ็องต์ กอมปานี ให้เลือกต่อสัญญากับทีม พร้อมอวยเป็นผู้เล่นที่ก้าวขึ้นมาช่วยทีมได้เสมอยามลงเตะเกมสำคัญๆ


    มิดฟิลด์จอมพลิ้ว แบร์นาร์โด้ ซิลวา กองกลางจอมเทคนิคของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่า ตัวเขาอยากให้ แว็งซ็องต์ กอมปานี เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีมคนเก่ง ตัดสินใจต่อสัญญาและอยู่ช่วยทัพ "เรือใบสีฟ้า" อีกสักระยะ หลังจากที่ กอมปานี กระหน่ำประตูสุดสวยช่วยทีมเปิดบ้านพิชิต เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสำคัญ เมื่อวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

    ชัยชนะดังกล่าวทำให้ แมนฯ ซิตี้ เขยิบเข้าไปใกล้กับการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก สองสมัยติด เพราะพวกเขาจะได้แชมป์ทันที หากเกมสุดท้ายของซีซั่นในวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคมนี้ พวกเขาบุกไปเอาชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ได้
    สำหรับ กอมปานี กำลังจะหมดสัญญาค้าแข้งในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม หลังจบฤดูกาลนี้ และก็เชื่อกันว่า แมนฯ ซิตี้ ได้เข้าไปเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่กับเจ้าตัวแล้ว ซึ่ง ซิลวา ก็ยอมรับว่า อยากให้ ปราการหลังทีมชาติเบลเยียมวัย 33 ปี เลือกขยายสัญญากับสโมสรออกไปอีก

    "เขาเป็นผู้เล่นสำหรับเกมใหญ่อย่างแท้จริง เมื่อไรก็ตามที่คุณต้องการเขา เขาจะอยู่ตรงนั้นเสมอ เขาไม่ได้รู้สึกถึงความกดดันเลย มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา เขาชอบความกดดัน และเขาจะเจ๋งขึ้นไปอีกเมื่อเจออะไรแบบนี้" อ่านข่าวบอลเพิ่มเติม

    "เขาคือผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้ และผมก็หวังว่า เขาจะอยู่กับเราต่อไปอีกสักสองสามปี เขาคือกัปตันทีมของพวกเรา และเป็นผู้เล่นที่สำคัญมากสำหรับพวกเรา ถ้าจะมีใครสักคนสมควรทำประตูแบบนั้นได้ มันก็ต้องเป็นเขานี่แหละ"

    "มันไม่ใช่เรื่องปกติที่เห็นกันบ่อยๆ กับการที่ผู้เล่นเซนเตอร์แบ็กพาบอลขึ้นมาซัดเองตรงจุดนั้น ดังนั้นนี่คือโมเมนต์ที่คุณจะต้องจดจำ แต่มันจะไม่มีความหมายอะไรเลย หากเราไม่ได้แชมป์ ดังนั้นเราจำเป็นต้องเก็บชัยชนะในเกมวันอาทิตย์นี้ให้ได้ เพื่อทำให้ประตูนี้เป็นประตูที่มีความหมายจริงๆ" สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสวัย 24 ปี กล่าว

แทงบอลออนไลน์ถอนง่ายโอนไวได้ที่ www.ufaadd.com/แทงบอล-ให้รวย


Friday, March 1, 2019

กุนซือโอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีลุ้นคุมทีมผีแดงถาวร...โซลชาเผยร่วมถ่ายโฆษณาสำหรับซีซั่นหน้า

    กุนซือโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ขัดตาทัพของ แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุ ตนได้ถ่ายโฆษณาที่ทีมเอาไว้ใช้โปรโมตซีซั่นหน้าด้วย แต่ก็เสริมว่ามันไม่ได้เป็นการยืนยันว่าตนจะได้คุมทีมแบบถาวร


    กุนซือโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมชั่วคราวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่าตนได้ร่วมถ่ายโฆษณาของทีมที่จะเอาไว้ใช้ในฤดูกาลหน้า ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่ว่าเขาจะได้สัญญาคุมทีมเป็นการถาวร

    โซลชา ถูกดึงเข้ามาคุม แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยสัญญาชั่วคราวที่มีผลจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยที่ "ปีศาจแดง" ทำอ็อปชั่นกับ โมลด์ เกี่ยวกับเรื่องที่จะขอเอาอดีตหัวหอกชาวนอร์เวย์มาคุมทีมแบบถาวรเช่นกัน แต่ตอนแรกก็ไม่มีใครคิดว่าเขาจะได้รับงานเป็นการถาวร

    อย่างไรก็ตาม โซลชา ทำผลงานได้เกินความคาดหมาย จนทำให้ช่วงที่ผ่านมามีข่าวลือว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจที่จะให้เขาได้คุมทีมแบบถาวรเป็นที่เรียบร้อย แถมว่ากันว่าอาจจะมีการแต่งตั้งเขาอย่างเป็นทางการก่อนจบฤดูกาลนี้ด้วย

    หลังจากโดนสื่อถามว่าแฟนบอลสมควรได้รับความคืบหน้าเกี่ยวกับผู้จัดการทีมคนใหม่ก่อนที่พวกเขาจะเสียเงินซื้อตั๋วปีของซีซั่นหน้าหรือไม่นั้น โซลชา ก็ตอบว่า "ที่จริงผมถ่ายโฆษณาเกี่ยวกับตั๋วปีไปแล้ว ดังนั้นผมก็เลยอยากให้พวกเขาซื้อตั๋วปีกันมากๆ! มันคงจะแปลกอยู่นะที่ผมจะได้เห็นตัวเองในวิดีโอโฆษณาโดยที่ผมไม่ได้อยู่คุมทีม"

    "ที่จริงการทำอย่างนั้น (หมายถึงการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เอา โซลชา มาอยู่ในโฆษณา ทั้งที่เขาจะไม่ได้คุมทีมแบบถาวร) มันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิดลูกๆ ของผมเห็นผมอยู่ในโฆษณาโดยที่ตัวผมอยู่ที่ นอร์เวย์ มันก็อาจจะแปลกนิดๆ เหมือนกัน"

    "ถึงกระนั้น การถ่ายโฆษณาก็เป็นส่วนหนึ่งของที่นี่อยู่แล้ว ก็เหมือนกับกรณีของพวกนักเตะนั่นแหละ จู่ๆ คุณก็จะไม่ได้อยู่กับทีมอีกต่อไปทั้งที่คุณยังเห็นภาพของตัวเองกับทีมอยู่ มันเป็นอย่างนั้น"

    โซลชา เสริมว่าตนได้พูดกับ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหารของทีม เกี่ยวกับเรื่องอนาคตของสโมสรเช่นกัน แต่ระบุว่าทำอย่างนั้นตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เข้ามาคุมทีมแล้ว ไม่ได้เพิ่งคุยกันในช่วงที่ผ่านมา "เราคุยกันเรื่องอนาคตของสโมสร เราทำอย่างนั้นตั้งแต่ก่อนที่ผมจะพาทีมชนะ 2 หรือ 3 นัดแรก และก่อนที่จะมีการพูดว่าผมน่าจะได้คุมทีมต่อรึเปล่าด้วย"

    "ผมจะหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ผมก็จะยังทุ่มเทให้ ยูไนเต็ด 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม และทำให้ดีที่สุดเหมือนที่ทำมาโดยตลอด การจะทำอะไรบางอย่างน่ะคุณต้องวางแผนเอาไว้ด้วย แน่นอนว่าทุกคนรู้ดีว่าผมอยากอยู่กับทีมต่อ แต่มันต้องรอจนกระทั่งจบฤดูกาลถึงจะมีการตัดสินใจในเรื่องนั้น"

อยากแทงบอลเล่นง่ายได้เงินง่าย ufabet now



Tuesday, February 19, 2019

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ไร้กังวล...บัลเบร์เด้ไม่เคลียดซัวเรซปืนฝืด

     เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กุนซือ บาร์เซโลน่า ระบุ ไม่เครียดกับการที่พักหลัง หลุยส์ ซัวเรซ ยิงได้น้อยเลย พร้อมระบุ "อาซูลกราน่า" ยังมีโอกาสตกรอบอยู่เหมือนกัน👏👏



    👉เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ ลา ลีกา สเปน กล่าวว่าไม่กังวลเกี่ยวกับการที่ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าชาวอุรุกวัยยิงประตูได้น้อยแต่อย่างใด หลังจากที่ล่าสุด "อาซูลกราน่า" ทำได้แค่บุกไปเสมอกับ โอลิมปิก ลียง 0-0 ถึงสนาม กรูปาม่า สเตเดี้ยม เมื่อวันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

    ถึงแม้ฤดูกาลนี้ ซัวเรซ จะทำไปแล้ว 16 ลูกจากการลงเล่นในทุกรายการ แต่ถ้านับเฉพาะ 10 นัดหลังสุดในทุกรายการเขาก็ทำไปเพียง 2 ประตูเท่านั้น แถมซีซั่นนี้เขายังยิงใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ได้เลยด้วย นอกจากนี้ อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล ก็ยิงในเกมเยือนของศึกชิงถ้วย "บิ๊กเอียร์" ไม่ได้มา 16 นัดติดต่อกันแล้ว ซึ่งหนสุดท้ายที่เขายิงในเกมเยือนของศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้นั้น ต้องย้อนไปถึงเกมที่ บาร์เซโลน่า เสมอกับ อาแอส โรม่า 1-1 เมื่อเดือนกันยายน ปี 2015 เลย

    บัลเบร์เด้ เผยว่า "ผมคงจะกังวลมากกว่าถ้าเขาสร้างโอกาสทำประตูให้ตัวเองไม่ได้เลย นั่นถือเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนเป็นกองหน้า เขาน่ะมีโอกาสทำประตูอยู่เสมอ และต่อให้เขาทำไม่ได้ เขาก็จะช่วยทำให้เกิดจังหวะลุ้นประตู และสร้างความปั่นป่วนให้คู่แข่งได้อยู่ดี นอกจากนี้ เขาก็ยังประสานงานกับคนอื่นได้ดีด้วย เมื่อพิจารณาถึงการที่เราสร้างโอกาสทำประตูได้หลายครั้ง"

    กุนซือชาวสแปนิชเสริมว่าทีมของตนยังมีโอกาสที่จะตกรอบอยู่ แม้ว่าหลายฝ่ายจะมองว่าพวกเขาน่าจะเอาชนะได้แบบไม่ยากเย็นในเกมนัดสองที่ คัมป์ นู ในวันพุธที่ 13 มีนาคมนี้ก็ตาม "เราสร้างโอกาสทำประตูได้หลายครั้ง แต่สิ่งที่สำคัญของฟุตบอลคือเรื่องของความสำเร็จ และวันนี้เราก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ โอกาสเข้ารอบมันยังเปิดกว้างอยู่ (สำหรับทั้งสองทีม) 0-0 เป็นสกอร์ที่อันตรายมาก เราจะไม่หลอกตัวเองหรอก"

    "ผมไม่คิดว่าการชนะเกมเยือนใน แชมเปี้ยนส์ ลีก จะเป็นงานง่ายอยู่แล้ว วันนี้เราครองเกมเอาไว้ได้ แต่จนถึงตอนนี้พวกเขา (ลียง) ก็ยังไม่เคยแพ้ใครในการเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ของฤดูกาลนี้เลย (จนถึงตอนนี้ ลียง ชนะ 1 เกม และเสมอ 5 นัดในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก) ลียง มีโอกาสทำประตูตอนต้นเกม แต่เราก็กลับมาได้ และครองเกมเอาไว้ได้จนกระทั่งถึงนาทีสุดท้าย"

👉👉👉แทงบอลออนไลน์เว็บไหนดีสมัครง่ายๆได้ที่ แทงบอลสเต็ป เครดิต⚽⚽⚽👈👈👈

Wednesday, February 13, 2019

ก่อนการอำลา! เช็กเผยอยากได้แชมป์ยูโรปาก่อนแควนถุงมือ

     ปีเตอร์ เช็ก นายทวาร อาร์เซน่อล เปิดใจ ก่อนที่จะแขวนถุงมือแบบเป็นทางการ ตนก็อยากจะได้แชมป์ ยูโรปา ลีก ร่วมกับทีม พร้อมชี้ การได้แชมป์รายการนี้มีความหมายกับทีมสุดๆ เช่นกัน


    ปีเตอร์ เช็ก ผู้รักษาประตูประสบการณ์สูงของ อาร์เซน่อล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าตนอยากได้แชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลนี้ เพื่อเป็นการปิดฉากอาชีพการเล่นแบบสวยหรู

    นายด่านวัย 36 ปี ประกาศไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะแขวนถุงมือหลังจบซีซั่น 2018-19 ภายหลังเล่นฟุตบอลอาชีพมาตั้งแต่ปี 1999 ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็ได้แชมป์มาครองหลายรายการ อย่างเช่นแชมป์ พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, แชมป์ เอฟเอ คัพ 5 ครั้ง, แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 หน และแชมป์ ยูโรปา ลีก 1 สมัย เป็นต้น

    เช็ก เผยว่า "แน่นอนว่านั่น (การได้แชมป์ ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลนี้) จะถือเป็นการปิดฉากอาชีพในฝันของผม เราเตรียมความพร้อมกันทุกวัน และเตรียมตัวพร้อมสำหรับทุกรายการ มันเป็นเป้าหมายของเรา เราพยายามที่จะชนะทุกนัด และค่อยๆ เดินหน้าไปทีละก้าว ในฐานะสโมสรแล้วนั้น มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเราที่จะพยายามและไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ การได้แชมป์ ยูโรปา ลีก จะเป็นความทรงจำที่ดีของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับทีม และมันจะยังทำให้เราได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย ดังนั้นรายการนี้จึงมีความหมายอย่างมาก"

    "คุณพูดถูกในเรื่องที่ว่านี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เล่นในรายการนี้ แต่ผมก็เตรียมตัวเหมือนกับที่ทำมาตลอดนั่นแหละ ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเกมสุดท้ายของผมในรายการนี้รึเปล่าหรอก"

Monday, February 11, 2019

แกรี่ชี้เรือใบสีฟ้ามีโอกาสคว้าแชมป์มากกว่าหงส์!

     แกรี่ เนวิลล์ อดีตยอดแบ็กขวาของ แมนฯ ยูไนเต็ด ชี้ แมนฯ ซิตี้ มีแววเป็นแชมป์ลีกมากกว่า ลิเวอร์พูล เพราะทัพ "เรือใบสีฟ้า" มีประสบการณ์ในการลุ้นแชมป์ดีกว่า แถม "หงส์แดง" ก็ต้องเจอกับความกดดันอย่างหนักด้วย


    แกรี่ เนวิลล์ ตำนานแบ็กขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งตอนนี้เป็นนักวิเคราะห์ของ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำของเมืองผู้ดี มองว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสได้แชมป์ลีกในฤดูกาลนี้มากกว่า ลิเวอร์พูล

    ถึงแม้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมในอันดับ 3 จะทำผลงานได้ดีจนมีลุ้นแชมป์แบบลึกๆ แต่บางคนก็มองว่าการขับเคี่ยวแย่งแชมป์จะมีเพียง แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล อยู่ดี ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 ทีมก็มี 65 แต้มเท่ากัน โดยที่ "เรือใบสีฟ้า" ได้เป็นจ่าฝูงเพราะมีผลต่างประตูได้-เสีย ดีกว่าถึง 10 ลูก แต่ฝั่ง "หงส์แดง" ลงเล่นน้อยกว่า 1 เกม

    เนวิลล์ คนพี่ เผยว่า "ถ้าคุณพิจารณาถึงขนาดขุมกำลังของ ลิเวอร์พูล และข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาไม่ได้แชมป์ลีกมานานแล้วเนี่ย คุณก็จะเห็นว่าตอนนี้บรรยากาศของที่นั่นเต็มไปด้วยความกระเสือกกระสนที่จะคว้าแชมป์มาครองให้ได้"

    "เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนพวกเขา (ลิเวอร์พูล) นำห่างถึง 7 แต้ม และพอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ นิวคาสเซิ่ล แล้วนั้น คุณก็คงคิดกันว่ามันเป็นโอกาสทองสุดๆ ของ ลิเวอร์พูล จริงอยู่ว่าพวกเขายังมีโอกาสอยู่ แต่หลังจบสัปดาห์ที่ผ่านมามันก็ถือว่าตอนนี้พวกเขามีโอกาสน้อยลงเยอะ"

    "แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ได้แชมป์คือเรื่องฟอร์มการเล่น แต่เรื่องของสภาพจิตใจก็มีส่วนอย่างมากเช่นกัน ตอนเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เนี่ย ผมไม่เคยดี๊ด๊ากับตอนที่เรากำลังจะได้แชมป์สมัยแรกเลย ตอนนั้นผมอึดอัดหนักมาก และนักเตะดาวรุ่งคนอื่นๆ ก็รู้สึกแบบเดียวกับผม"

    "เราเอาตัวรอดมาได้แบบหวุดหวิดจากความช่วยเหลือของ เอริก คันโตน่า, ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล, รอย คีน และเหล่าคนที่มีบุคลิกอันยอดเยี่ยม พวกเขายังเป็นคนที่มีประสบการณ์ชั้นยอดที่เข้าใจด้วยว่ามันต้องทำยังไง"

    "ซิตี้ ชุดนี้มีความชำนาญ (ในการรับมือกับสถานการณ์ลุ้นแชมป์) อยู่แล้ว เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน จริงอยู่ว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ เคยได้แชมป์ลีกมาก่อน แต่ไม่ใช่กับในประเทศนี้ สิ่งที่ ซิตี้ ทำได้ในสัปดาห์นี้ (ชนะ เชลซี 6-0) มันทำให้เกิดความกดดันด้านสภาพจิตใจ (กับ ลิเวอร์พูล) อย่างมาก มันจะเป็นงานหนักอึ้งสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่จะได้แชมป์ลีกไปครอง แต่การลุ้นแชมป์มันก็ยากแบบนี้อยู่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เลย ผมคิดว่าการลุ้นแชมป์เพิ่งเริ่มขึ้นจริงๆ เมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนนี้เราเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว" อดีตดาวเตะชาวอังกฤษ ร่ายยาว

Friday, February 8, 2019

เบอร์ 2 อาเซียน !! ฟีฟ่าแรงค์กิ้งล่าสุดทีมชาติไทยขยับขึ้นอีก 3


ฟีฟ่าแรงค์กิ้ง ได้มีการจัดอันดับกันใหม่อีกครั้งในรอบเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งผลปรากฎว่าทีมชาติไทยขยับขึ้นมาจากเดิม 3 อันดับ 


โดยในตอนแรกอยู่อันดับ 118 แต่ตอนนี้ขึ้นมา 115 แล้ว แต่ว่ายังคงเป็นเบอร์ 2 ของอาเซียนอยู่ เนื่องจากว่า เวียดนาม อยู่ในอันดับ 99 ของโลก ขณะที่ เบอร์ 1 ของโลกเป็นทาง เบลเยียม จากรายงานของ fifa.com เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2562

สำหรับ ทีมชาติไทย ที่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของรายการเอเชียนคัพ 2019 มาได้คะแนนฟีฟ่าแรงค์กิ้งก้ได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยขยับขึ้นจาก 118 มาอยู่ 115 แต่ยังคงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน เนื่องจากเวียดนามที่ทะลุเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 99 เลยทีเดียว ส่วนอันดับ 1-3 ของโลกยังคงเป็น เบลเยียม, ฝรั่งเศส และบราซิล

ทั้งนี้ สำหรับอันดับ 1 ของทวีปเอเชียยังคงเป็นของ อิหร่าน (22), ที่ 2 ญี่ปุ่น (27), ที่ 3 เกาหลีใต้ (38), ที่ 4 ออสเตรเลีย (42) และที่ 5 กาตาร์ (55) ขณะที่ฝั่งอาเซียน อันดับ 1 เวียดนาม (99), อันดับ 2 ไทย (115), อันดับ 3 ฟิลิปปินส์ (123), อันดับ 4 เมียนมาร์ (138) และอันดับ 5 อินโดนีเซีย (159)

เดวิด เบ็คแฮม เผย5คำป๋าด่าแบบเจ็บๆ

เดวิด เบ็คแฮม อดีตแข้งทีมชาติอังกฤษ เผยถึงความเฮียบของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หลังเคยโดนสั่งไปโกนผมทิ้งเนื่องจากทะลึ่งตัดทรงโมฮอว์ก พร้อมชี...